พยากรณ์อากาศ 31 มี.ค.-6 เม.ย.66 ความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน

พยากรณ์อากาศ 31 มี.ค.-6 เม.ย.66 ความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน

สวัสดีขอรับวันนี้แอดฯขอนำเสนอข่าวเกี่ยวกับ พยากรณ์อากาศของบ้านเราเวลานี้ และในอีกต่อไปในอีก ึ วันข้างหน้าโดย อุตุนิยมวิทยาได้ พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ทั่วไทยอากาศร้อนถึงร้อนจัด มีฝนฟ้าคะนอง – ลมกระโชกแรงบางแห่ง ภาคเหนือร้อนแตะ 42 องศาฯ รายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้นมาดูเลยขอรับ

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้าระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 6 เมษายน 2566 ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง

โดยในช่วงวันที่ 1 – 4 เมษายน 2566 ลมตะวันตกจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 5 – 6 เมษายน 2566 ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางพื้นที่

บทความน่าอ่าน

สำหรับลมตะวันออก และลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่งเกิดขึ้นได้ ตลอดช่วง

ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนขึ้น ตลอดช่วง โดยในช่วงวันที่ 1 – 4 เมษายน 2566 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่เกิดขึ้นในระยะนี้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยงไว้ด้วย

ภาคเหนือ

  • อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากทางด้านตะวันออกและตอนล่างของภาค ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 1 – 4 เมษายน 2566 ลมตะวันตก ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 5 – 6 เมษายน 2566 ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 38 – 42 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 1 – 4 เมษายน 2566 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 5 – 6 เมษายน 2566 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 – 41 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง

  • อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 1 – 4 เมษายน 2566 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 5 – 6 เมษายน 2566 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ลมใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36 – 41 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก

  • อากาศร้อนในตอนกลางวัน ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 1 – 4 เมษายน 2566 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 5 – 6 เมษายน 2566 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 38 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

  • มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 31 มีนาคม – 1 เมษายน 2566 ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 6 เมษายน 2566 ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 38 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

  • (ฝั่งอันดามัน) อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ในช่วงวันที่ 31 มีนาคม – 1 เมษายน 2566 ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 2 – 6 เมษายน 2566 ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 38 องศาเซลเซียส

กรุงเทพและปริมณฑล

  • อากาศร้อนภึงร้อนจัดในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ตลอดช่วง ลมใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34 – 40 องศาเซลเซียส

สำหรับแอดฯเอง ณ เวลานี้รู้สึกว่าบ้านเราทำไมมันร้อนและร้อนขึ้นทุกปี ไปไหนมาไหนก็อย่าลืมพกร่มหรือทาครีมกันแดดด้วย เวลาอยู่กลางแจ้งหรือทำงานกลางแดดนานๆ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอและบ่อยๆ จากใจแอดฯ…..

ขอขอบคุณที่มาจาก bangkokbiznews.com