ประวัติ หมอกระต่าย จักษุแพทย์อนาคตไกล ที่ไปอย่างไม่มีวันกลับ

ประวัติ หมอกระต่าย จักษุแพทย์อนาคตไกล ที่ไปอย่างไม่มีวันกลับ

สวัสดีขอรับ แอดฯขอขอบคุณที่ติดตามให้กำลังใจกัน วันนี้มาเปิดดูประวัติ หมอกระต่าย พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล แพทย์รามาฯ ที่เพิ่งเสียชีวิตจากกรณีบิ๊กไบค์ตำรวจพุ่งชน รายละเอียดดูเลย

ถือเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของวงการจักษุแพทย์ กับเหตุการณ์ ส.ต.ต. นรวิชญ์ บัวดก สังกัด อคฝ. ขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์พุ่งชน แพทย์หญิงวราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ หมอกระต่าย แพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะเดินข้ามทางม้าลาย หน้าสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2565 จนส่งผลให้หมอกระต่ายเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยข่าวดังกล่าวเป็นที่สนใจของสังคมอย่างมาก ทั้งในด้านทวงความยุติธรรมให้กับคดี สะท้อนปัญหาความปลอดภัยของผู้ข้ามถนนบนทางม้าลาย รวมถึงประวัติหมอกระต่าย ซึ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณค่าของประเทศ

บทความน่าอ่าน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Smith Fa Srisont

สำหรับประวัติ หมอกระต่าย พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล เกิดวันที่ 24 มกราคม 2531 เป็นจักษุแพทย์เช่นเดียวกับคุณพ่อ นพ. อนิรุทธ์ สุภวัตรจริยากุล ซึ่งมีลูกสาว 2 คน เป็นจักษุแพทย์ตามรอยคุณพ่อทั้งหมด เธอเรียนจบชั้นมัธยมต้นและปลายจากโรงเรียนสาธิตปทุมวัน จากนั้นศึกษาต่อที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี รุ่นที่ 42 ก่อนกลับไปใช้ทุนที่โรงพยาบาลสระบุรี

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Waraluck Kt

ด้วยความมุ่งมั่นและรักในอาชีพแพทย์ หมอกระต่ายจึงไปเรียนต่อเฉพาะทางจักษุวิทยา โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ต่อยอดจักษุวิทยาภูมิคุ้มกันอักเสบ และศึกษาต่อเฉพาะทางต่อยอดจอตาและวุ้นตา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งหมอกระต่ายเพิ่งเรียนจบมาได้เพียง 2 เดือน ถือว่าเป็นเสาหลักของครอบครัว เพราะคุณพ่อของหมอกระต่ายก็เพิ่งเกษียณราชการจากหมอจักษุเมื่อปีก่อน และวาดฝันอยากให้ลูกสาวสานต่อด้านการแพทย์ ล่าสุดเตรียมเข้ารับราชการที่โรงพยาบาลตำรวจ ก่อนมาจบชีวิตด้วยวัย 33 ปี ก่อนหน้าวันเกิดของเธอเพียงไม่กี่วัน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Waraluck Kt

ด้าน เฟซบุ๊ก รู้เรื่องตา-ตาปลอม โดย พ.ญ.อรวีณัฏฐ์ นิมิตรวงศ์สกุล จักษุแพทย์ สาขาศัลยกรรมตกแต่งเสริมสร้างเบ้าตาและอวัยวะรอบดวงตา ได้โพสต์ข้อความระบุว่า การเรียนแพทย์จะต้องใช้เวลาร่ำเรียนเป็นเวลา 6 ปี และศึกษาด้านจักษุแพทย์ต่ออีก 3 ปี แพทย์เฉพาะทางอีก 2 ปี กว่าจะสำเร็จการศึกษามาเป็นจักษุแพทย์เฉพาะทางได้จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งนี้ หมอกระต่าย เป็นหมอที่ตั้งใจเรียนสาขาย่อยถึง 2 สาขาในคนเดียวกัน ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยทางตาได้มาก ทั้งสาขาจอตา ที่ในประเทศมีประมาณร้อยคนเศษ และสาขาม่านตาอักเสบที่ในประเทศมีอยู่ไม่กี่สิบคนด้วยซ้ำไป

กรณีของ หมอกระต่าย จึงนับว่าเป็นที่น่าเสียดายต่อวงการแพทย์ไทยที่ต้องสูญเสียจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไปก่อนเวลาอันควร

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Waraluck Kt
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Waraluck Kt
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Waraluck Kt

อยากให้หมอกระต่ายเป็นรายสุดท้าย ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและร่วมไว้อาลัยกับการจากไปครั้งนี้ด้วยขอรับ 

บทความน่าอ่านและอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ lovetaifu.com

ขอขอบคุณที่มาจาก women.kapook.com