มารู้จัก 3 สมุนไพรไทย เสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย

มารู้จัก 3 สมุนไพรไทย เสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย

สวัสดีครับ แอดฯขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามให้กำลังใจกัน วันนี้ แอดฯมีเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับสมุนไพรของบ้านเรา โดยเฉพาะด้านการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย รายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้นมาดูกัน

สมุนไพรไทยเสริมภูมิคุ้มกัน
สมุนไพรไทยเสริมภูมิคุ้มกัน

สมุนไพรไทยมีคุณอเนกอนันต์ โดยเฉพาะในภาวะวิกฤติไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดไปทั้งโลก ยิ่งได้ตระหนักถึงคุณประโยชน์ของภูมิปัญญาไทย โดย 3 สมุนไพรไทยที่ถือว่า มีสรรพคุณเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมสู้ไวรัสร้าย ต้องยกให้ฟ้าทะลายโจร, ขมิ้นชัน และพลูคาว

ฟ้าทะลายโจร
ฟ้าทะลายโจร

ข้อมูลจากผลการวิจัยทางการ แพทย์ ระบุว่า “ฟ้าทะลายโจร” เป็นสุดยอดสมุนไพรที่คนไทยรู้จักอย่างแพร่หลายมานาน โดยทางการแพทย์แผนไทยใช้บรรเทาอาการไข้หวัด, แก้ไอ, เจ็บคอ รวมไปถึงอาการอ่อนเพลีย และนอนไม่หลับ ผลการวิจัยบางสำนักยังบ่งชี้ว่าฟ้าทะลายโจรสามารถลดอาการผิดปกติของปอด และลดจำนวนไวรัสในปอด พร้อมกับช่วยยับยั้งเชื้อไวรัส “Corona Virus” ในหลอดทดลองด้วย

ขมิ้นชัน
ขมิ้นชัน

ขณะที่ “ขมิ้นชัน” เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรพื้นบ้านที่มีติดแทบทุกครัวเรือนไทย นิยมนำมาใช้ปรุงอาหาร และทำเป็นเครื่องสำอาง จากงานวิจัยยังพบว่าเคอร์คูมินอยด์ในขมิ้นชัน ช่วยต้านอาการอักเสบ และบรรเทาอาการปวดในผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อม พร้อมยับยั้งเซลล์มะเร็งได้หลายชนิด ตลอดจนบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน รวมไปถึงต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้ดี

พลูคาว
พลูคาว

สำหรับ “พลูคาว” ข้อมูลจากสถาบันวิจัย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในปี 2548 ระบุว่า เป็นสมุนไพรมหัศจรรย์ที่สามารถรักษาภาวะภูมิแพ้, หอบหืด, เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ และการแพ้อาหาร ทั้งยังช่วยรักษาภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง และเสริมภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ยังมีงานวิจัยบางสำนักชี้ว่าพลูคาวมีฤทธิ์ทำลายและยับยั้งเชื้อไวรัสได้หลายชนิด เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่, เอดส์, เริม และไวรัสที่ทำให้เป็นโรคมือเท้าปากเปื่อย ปัจจุบันในประเทศจีนมีการใช้พลูคาวเป็นส่วนผสมในตำรับยารักษาโรคที่เกิดจากไวรัส และจดสิทธิบัตรไว้หลายรายการ..

บทความน่าอ่าน

สมุนไพรไทยนี่จริงๆไม่แพ้สมุนไพรใดๆในโลกเลยนะ เราคนไทยเองอย่ามัวแต่มองหาของนอก ซึ่งอาจจะราคาแพงแต่สรรพคุณทางยาอาจไม่ได้มากไปกว่าสมุนไพรของบ้านเราเลย หนำซ้ำหลายประเทศยังแอบมาวิจัยแล้วเอาไปจดสิทธิบัตรเองเลยชะงั้น

บทความน่าอ่านและอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ lovetaifu.com

ขอขอบคุณที่มาจาก thairath.co.th