iLove ไท่ฟู่

รู้ยัง! เม็ดเงินในโครงการ’เราชนะ’ ไปถึงเท่าใดแล้ว

รู้ยัง! เม็ดเงินในโครงการ’เราชนะ’ ไปถึงเท่าใดแล้ว

เป็นประเด็นข่าวที่คนให้ความสนใจ และกำลังลุ้นคำตอบกันว่าโครงการ “เราชนะ” นั้น จะมีเม็ดเงินเข้ามาทั้งสิ้นจำนวนเท่าใด จะถึงหลักแสนล้านรึเปล่า วันนี้มีคำตอบและความคืบหน้าของโครงการเราชนะมาฝากครับ

มาตรการแจกเงิน “เราชนะ” จากเหตุสถานการณ์โควิด-19 มีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ประสบความลำบากในการดำรงชีพทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ซึ่งโครงการ “เราชนะ” ได้จัดสรรวงเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ สูงสุด 7,000 บาทต่อคน ระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 รับเงินทุกสัปดาห์ และสะสมสิทธิใช้จ่ายถึงสิ้นสุดโครงการ

ตามที่ นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยไว้ว่า ประชาชนทั่วไปที่สละสิทธิ์ด้วยเหตุผล “กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน” และได้มาลงทะเบียนในช่องทางเดียวกันกับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 15 – 21 กุมภาพันธ์ 2564 จะทราบผลการคัดกรองคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป

บทความน่าอ่าน

และจะมีการโอนวงเงินสิทธิ์ จำนวน 5,000 บาท ให้กับผู้ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเพื่อใช้จ่ายผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ตั้งแต่เมื่อวานหรือวันที่ 12 มีนาคม 2564 ซึ่งประชาชนกลุ่มดังกล่าวสามารถตรวจสอบผลการคัดกรองคุณสมบัติได้ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com หรือ Call Center ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หมายเลขโทรศัพท์ 0 2111 1122

ความคืบหน้าของโครงการเราชนะ

  1. ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 42,447 ล้านบาท
  2. ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว มีจำนวนมากกว่า 16.6 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 59,652 ล้านบาท

    ภาพโดย 41330 จาก Pixabay

  3. ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 0.5 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 1,448 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 30.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 103,547 ล้านบาท
  4. การใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.2 ล้านกิจการ

เป็นจำนวนเงินเข้ามาใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยกว่า แสนล้านบาทแล้ว ซึ่งอาจยังไม่หยุดอยู่แค่นี้ เพราะหากมีหลายกลุ่มที่ยังรอการทบทวนสิทธิอยู่ ซึ่งเมื่อผ่านการทบทวนคิดว่ายอดเงินคงจะเพิ่มขึ้นครับ

ขอขอบคุณที่มาจาก bangkokbiznews.com