เคาะแล้ว!! วงเงินประกันรายได้เกษตรกร 3.8 พันล้าน
สวัสดีครับ แอดฯขอขอบคุณที่ทุกท่านได้ติดตามให้กำลังใจกันนะครับ วันนี้มีข่าวดีสำหรับเกษตรกรทุกท่าน ที่ทางคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณในการประกันรายได้เกษตรกร สำหรับรายละเอียดจะเป็นอย่างไรนั้นเชิญติดตามได้เลยครับ
ครม.อนุมัติเพิ่มวงเงินโครงการ “ประกันรายได้เกษตรกร” อีก 3.8 พันล้านบาท หลังพบมีการลงทะเบียนเกษตรกรเพิ่มขึ้น 1.1 แสนครัวเรือน พร้อมทั้งเพิ่มวงเงินโครงการ “สินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี” อีก 4.5 พันล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 มี.ค.2564) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ประจำวันที่ 9 มี.ค.2564 ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงินเพิ่มให้ 2 โครงการที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ดังนี้
1.โครงการประกันรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว รอบปี 2563/2564 รอบที่ 1 เพิ่มวงเงินให้ 3,883 ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชน์เสนอ ซึ่งวงเงินนี้เพิ่มเติมจากการที่ ครม. เคยได้อนุมัติแล้วเมื่อ 1 ธ.ค.2563 จากยอดเดิม 46,807 ล้านบาท เพราะฉะนั้นวงเงินทั้งหมด 50,646 ล้านบาท
ทั้งนี้เหตุผลที่ต้องอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม เนื่องจากมีเกษตรกรลงทะเบียนเพิ่มขึ้นหลังจากที่ ครม.อนุมัติวงเงินไปแล้ว เพิ่มขึ้นอีก 1.1 แสนครัวเรือน มีพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้น 6 ล้านไร่ ฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเตรียมงบประมาณไว้รองรับตรงนี้ และทางกรมส่งเสริมการเกษตรคงสรุปตัวเลขครัวเรือนที่จะมาลงทะเบียนเกษตรกรทั้งหมดได้ในเดือน พ.ค.2564 เพราะว่าบางพื้นที่ เช่น ภาคใต้ จะขึ้นทะเบียนช้า
บทความน่าอ่าน
- เราชนะ! เตรียมแจกเงินเที่ยว 5,000 บาท
- การปฏิบัติดูแลรักษาลำไยในรอบปี
- สูตรลาบไก่ ทำกินอร่อย ทำขายรวย..
- 27 ประโยชน์ของมะละกอในตำรายาพื้นบ้าน ที่ท่านอาจไม่เคยรู้มาก่อน
2.โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี รอบปีการผลิต 63/64 อนุมัติเพิ่มอีก 4,504 ล้านบาท จากเดิมที่อนุมัติไปแล้วเมื่อ 3 พ.ย.2563 จำนวน 19,826 ล้านบาท รวมงบประมาณในโครงการนี้ทั้งสิ้น 24,331 ล้านบาท
ทั้งนี้ที่ต้องมีการขยายวงเงินนี้ เนื่องจากว่ามีเกษตรกรที่ให้ความสนใจมาก เพราะวงเงินที่อนุมัติเพิ่มจะสามารถชะลอการขายข้าวเปลือกได้อีกประมาณ 3.2 แสนตันข้าวเปลือก เพิ่มจากเดิมที่กำหนดไว้เพียง 1.5 ล้านตันข้าวเปลือก รวมวงเงินทั้งหมดที่จะจัดสรรเพื่อชะลอการขายน่าจะชะลอการขายได้ 1.82 ล้านตัน
โดยระยะเวลาของการขยายเวลาของโครงการนี้ จะจัดทำสัญญากู้ไปถึง 31 มี.ค.2564 ส่วนภาคใต้จะขยายเวลาการให้สินเชื่อถึง 31 ก.ค.2564
อย่างไรก็ตามหลักการในการปล่อยสินเชื่อก็จะยึดตามเดิม ดังนี้
- เกษตรกรที่เก็บข้าวเปลือกในยุ่งฉางของตัวเอง จะได้รับค่าฝากเก็บและรักษาคุณภาพข้าว อัตรา 1,500 บาทต่อตันข้าวเปลือก
- สถาบันเกษตรกรที่รับซื้อข้าวเปลือกเข้าโครงการ จะได้รับอัตรา 1,000 บาทต่อตันข้าวเปลือก
- เกษตรกรผู้ขายข้าว จะได้รับอัตรา 500 บาทต่อตันข้าวเปลือก
เป็นข่าวดีสำหรับเกษตรกรหน้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นจัดการลงทะเบียนถึง 1.1 ราย แอดฯรู้ว่าการทำเกษตรเป็นสิ่งที่หนัก ต้นทุนการผลิตเราก็ควบคุมได้น้อยมาก ทั้งการตลาดเราไม่สามารถควบคุมได้เลย แต่หากมีการประกันรายได้ แอดฯเชื่อว่าจะต้องเป็นคนดีแก่เกษตรกรมาก
ขอขอบคุณที่มาจาก bangkokbiznews.com