ไทด์ เอกพันธ์ เล่าเหตุการณ์ตอนพบร่างแตงโม อย่างละเอียด
สวัสดีขอรับ แอดฯขอบคุณเพื่อนที่ติดตามกัน วันนี้มีข่าวเกี่ยวกับดาราสาวแตงโมอย่าง พี่ไทด์ เอกพันธ์ เล่าเหตุการณ์ตอนพบร่างแตงโม พร้อมช่วยเชฟภาพน้องไม่ให้โป้ รายละเอียดเป็นอย่างไรมาดูกัน
ไทด์ เล่านาทีพบร่างแตงโม – จากเหตุการณ์สุดเศร้าช็อกวงการบันเทิง หลังจากที่นักแสดงสาว ‘แตงโม นิดา’ พลัดตกเรือกลางแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจากล่องเรือเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งทาง ไทด์ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ นักแสดงจิตอาสา มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้ระดมกำลังช่วยกันตามหาอย่างเต็มความสามารถ จนกระทั่งพบร่าง
โดย ไทด์ เอกพันธ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับข่าวสดออนไลน์ว่า “วันที่เกิดเหตุคือวันที่ 24 ก.พ. ตอนนั้นพี่ไทด์และพี่ท็อปอยู่ที่จ.เพชรบูรณ์ ไปช่วยเคสผู้พิการติดเตียง 3 เคส ทราบเรื่องจากคุณนีโน่ โทรมาหาตอน 5 ทุ่ม ถามว่าเรารู้เรื่องนี้หรือยัง เรายังงงว่าเป็นไปได้เหรอ
ยังถามว่าลองเช็กดีๆว่าใช่น้องหรือเปล่า หรือเป็นเฟกนิวส์ ซึ่งพอเช็กแล้วเป็นเรื่องจริง ทางกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูก็ระดมกำลังไปค้นหาน้องตั้งแต่คืนวันที่ 24 ก.พ. ส่วนพี่มาในคืนวันที่ 25 ก.พ. พร้อมพี่บิณฑ์ และก็ลงพื้นที่ไปในคืนนั้นเลย”
บทความน่าอ่าน
- ตรวจโทรศัพท์แตงโม-เพื่อน ผลออกแล้ว เตรียมดำเนินการส่งให้ ชุดคลี่คลายคดี
- ตำรวจเรียกกลุ่มวัยรุ่นตกปลาให้ปากคำ ปมดาราสาวแตงโมตกน้ำ ได้กล่าวถึงผู้หญิงบนเรือ
- ย้อนเหตุการณ์ นักแสดงสาวแตงโม ผู้ผ่านมรสุมชีวิตใหญ่ถึง 6 ครั้ง
- แม่แตงโม มีหลักฐานแชตหลุด บอกแตงโมโดนอย่างไรบนเรือ
“เช้าวันที่ 26 ก.พ. ก่อนไปเราก็อธิฐานว่าขอให้องค์ท้าวเวสสุวรรณ ช่วยดลจิตดลใจนำร่างของน้องขึ้นมาจากแม่น้ำในวันนี้ เพื่อจะมารับน้อง หลังจากนั้นก็ลงเรือและมุ่งหน้าไปทางเหนือ ไปทางจ.นนทบุรี เลาะดูตลิ่ง เลาะกองสวะ
จนกระทั่งมีผู้หญิงคนหนึ่งกวักมือเรียก เราก็ขับเรือเข้าไป น้องเขาก็บอกว่าเมื่อคืนนอนไม่หลับเลย หนูฝันว่ามีพญานาคมาบอกว่าให้แจ้งกู้ภัยให้ไปจุดธูปไหว้พระองค์ใหญ่ๆที่มีนาคปกคลุมเศียรอยู่ 7 ตัว เขาบอกให้ไปไหว้ที่หลวงพ่อองค์นี้ แล้วก็จะเจอน้องทันที เขาพูดแบบนี้เลย
เราก็คิดว่าไม่มีอะไรเสียหาย ถือว่าไปไหว้พระแล้วกัน วัดนั้นชื่อวัดแดงธรรมชาติ เราก็ไปขอว่าช่วยด้วยเถิด ขอให้ได้เจอ และได้บนว่าถ้าเจอน้องจะขอวิ่งรอบพระรูปทรงม้า 100 รอบ หลังจากนั้นก็ล่องเรือไปทางเหนือ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง น้องขึ้นเลย ห่างจากผมประมาณ 50 เมตร จนขับเรือไปเจอน้องจริงๆ ขนลุกเลย
ซึ่งตอนนั้นน้องโป๊อยู่ เลยตะโกนขอผ้าคลุมร่างน้อง เพราะน้องๆอาสาก็เอามือถือขึ้นมาถ่าย ผมก็ถือว่ามันเป็นการไม่ให้เกียรติน้อง เดี๋ยวภาพออกไปมันดูไม่สวยงาม เลยขอผ้าปิด และเอาน้องขึ้นมาที่ฝั่ง รอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาชันสูตรพลิกศพ จนพลิกตัวมาก็เจอแผลฉกรรจ์ด้านขวา ที่มันเป็นประเด็นขึ้นมาว่าอาจจะเป็นจุดที่น้องต้องเสียชีวิต”
ได้ยินว่าแผลลึกถึงกระดูก เป็นไปได้ไหมที่จะโดนใบพัดเรือ? “มันก็เป็นไปได้นะ แต่ที่มันมีข้อสงสัย นั่นก็คือถ้าโดนใบพัดจริงๆ นึกออกไหม ใบพัดมันจะหมุน ถ้าโดนเนื้อมันจะปั่นและแผลมันจะเหวอะหวะ แต่อันนี้มันเป็นรอยลักษณะฉีกลงมาประมาณ 1 ฟุต ลึกมาก คือเอาฝ่ามือเรายัดเข้าไปในแผลน้องได้เลย แล้วเนื้อน้องออกมาแบบเห็นกระดูก ไม่ได้โอเวอร์นะ
ผมคิดว่าแผลตรงนี้น่าจะเป็นแผลที่น้องเสียชีวิตจากการตกเรือ หรือว่าไปโดนใบพัดจริงๆ มันน่าจะมีแผลมากกว่านี้ น่องด้านขวาก็มีรอยขีดนิดหน่อย ไม่ลึก แต่เห็นชัด ส่วนเสื้อผ้าที่น้องใส่ชุดเดรส ก็ยังมีเสื้อคลุมผูกที่เอวอยู่ตามในรูป แต่ผ้าโปร่งลายฉลุสีขาวเหมือนซีทรูอันนั้นไม่อยู่แล้ว น่าจะหลุดไปตอนที่ตกน้ำ
ส่วนบอดี้สูทก็ยังอยู่กับตัวน้อง ไม่มีร่องรอยที่จะมีกระดุม เหมือนกับเป็นวันพีซ เพราะผมเป็นคนพลิกศพให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานถ่ายรูป”
ประเด็นที่บอกว่ากู้ภัยมาช้า ในส่วนของการทำงานจริงเป็นอย่างไร? “จากที่สอบถามน้องๆ น้องๆไม่ได้มาช้าเลย แต่ข้อมูลที่เขาให้มันสับสน แต่ละคนบอกไม่ตรงกันเลยว่าตกตรงไหน ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาก็วนหากันแล้วสักพักหนึ่ง ไม่เจอน้อง เขาก็เพิ่งจะแจ้งกู้ภัยมา มันไม่ได้ผิดที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเลยจริงๆ หน่วยงานเราพร้อมทั่วทุกบริเวณในกรุงเทพฯ
พอได้รับแจ้งเราจะไปถึงที่เกิดเหตุไม่เกิน 5-10 นาที อย่าไปโทษกู้ภัยเลย กู้ภัยเขาเสี่ยงชีวิตดำน้ำลงไปใต้น้ำกลางคืน มันอันตรายแค่ไหน แล้วกี่ชีวิตที่เขาลงไป และกี่ชั่วโมงที่เขาลงไปตามหาร่างน้อง พวกคุณเองให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง ให้ข้อมูลบิดเบือนมันก็เลยทำให้ล่าช้า มันเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรเพราะเราไม่รู้จุดตก เพราะถ้าเรารู้พิกัดที่แน่นอน ลงไปตรงนั้นผมคิดว่าไม่เกิน 3-4 ชั่วโมงน่าจะเจอน้อง”
“แต่ก็เข้าใจเขาได้นะ ว่ากลางคืนมันไม่สามารถจะจำพิกัดได้เหรอ ในน้ำมันก็เหมือนกันหมด บางทีเราทำของตกก็ไม่รู้แล้วว่ามันตกตรงไหน แต่เขาแจ้งช้าไป คือเขาหาจนกระทั่งไม่เจอแล้ว หมดปัญหาที่เขาจะหาแล้วก็ต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ อย่าไปอะไรกับกู้ภัยเลยครับ พวกที่เขาทำงานอาสาไม่มีเงินเดือน ทำงานด้วยความเสียสละจริงๆ ต้องขอชื่นชม”
มีโอกาสได้คุยกับเพื่อนแตงโม? “ไม่ได้คุยเลยครับ ไปเจอกันที่สถานบันนิติเวชวิทยา รู้สึกจะเป็นผจก. ก็ไปถามเขาว่ามีใครเอาชุดมาเปลี่ยนให้น้องไหม เพราะน้องไม่มีชุด เพราะทางสถาบันนิติเวชจะตัดชุดน้องออกหมด เลยต้องห่มผ้าขาวเอาร่างน้องใส่ในตู้เย็นของโรงพยาบาล เลยบอกคุณแม่ว่าเอาชุดที่น้องชอบที่สุดมาให้เจ้าหน้าที่”
เป็นไปได้ไหมว่าแผลที่ขาจะโดนอาวุธอย่างอื่นที่ไม่ใช่ใบพัด? “เป็นไปได้ครับ เพราะแผลมันไม่ใช่ลักษณะเหวอะ แต่มันเป็นแผลแบบเอามีดมากรีดแบบตรงๆ เป็นไปได้นะ บาดแผลนี้มันอาจจะเกิดบนเรือก่อนแล้วก็ตกลงไปในน้ำ แล้วผมว่าเลือดน่าจะไหลไม่หยุด ทำให้น้องหมดแรง แล้วก็อาจจะเสียชีวิต จมน้ำลงไป หรือไม่ก็จมไปแล้วเรือวิ่งมาหาน้อง แล้วใบพัดมาตัดขาน้องก็เป็นไปได้สองอย่าง”
ด้วยสภาพศพแล้วทำให้ไม่สามารถบริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ได้? “ใช่ครับ เพราะว่าร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นสภาพหน้าตาน้องเปลี่ยนไปเยอะมาก และผิวหนังและอวัยวะต่างๆ มันโดนน้ำเข้าไปอยู่ข้างในเกิน 24 ชั่วโมง อวัยวะภายในมันก็บอบช้ำ ไม่อยู่ในสภาพที่ปกติ เหมือนอวัยวะผู้อื่นที่เพิ่งเสียไม่ถึง 24 ชั่วโมง
โดยที่ไม่ได้มีน้ำท่วมปอด มันก็ไม่สามารถที่จะบริจาคได้ แต่น้องเขาก็ได้บุญแล้ว เพราะเขาไปบริจาคก่อนที่จะเสียชีวิตครับ ถึงแม้จะไม่มีร่างให้กับนักเรียนแพทย์ได้เรียนกัน ผมก็ขออนุโมทนาสาธุกับน้องด้วย”
คิดว่าการเสียชีวิตในครั้งนี้ มีเงื่อนงำ? “มันน่าจะมีเงื่อนงำ เพราะทุกคนไม่พูดความจริง ถ้าใครกล้าหาญออกมาพูดเรื่องราวทั้งหมดที่มันเกิดขึ้นจริงๆ คดีนี้มันจบ เพราะอีกคนออกมาบอกอีกอย่างหนึ่ง อีกคนออกมาบอกอีกอย่างหนึ่ง เหมือนกับว่าเตี๊ยมกันมาให้พูด บางครั้งพูดมากไปสิ่งนั้นก็กลับมากระทบกับตัวเอง
ซึ่งพยายามพูดให้ถูกว่าไม่ใช่ตัวเองที่ทำให้เสียชีวิต หรือว่าตกเรือ ทุกคนก็ดิ้นรนหาคำพูดต่างๆที่มันฟังแล้วน่าจะเป็นแบบที่เขาพูด ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ใช่กับการฆ่าตัวเอง ถ้าใครพูดเรื่องจริง เรื่องราวต่างๆที่คนทั้งประเทศได้พูดกันมันจะหยุดการวิพากษ์วิจารณ์ทันที จะไม่ต่อเรื่องราวอะไรให้มันดราม่า 5 คนนี้ ผมอยากวิงวอน ขอให้พูดความจริงสักคนหนึ่ง คุณเป็นคนกล้าหาญ”
หลายคนมองเราออกตัวแรง? “ผมไม่ได้ออกตัวอะไรเลย ผมรู้นะว่ามีคนเข้ามาบอกผมเยอะมาก หาว่าผมเอาหน้า เขาทำงานกันมาเหน็ดเหนื่อย แต่ตัวเองมาแป๊บเดียวปุ๊บ โอ้โห เหมือนกับตาอินกับตานา หาปลามากินกัน ตาอยู่มาถึงแป๊บเดียวเอาไปกิน มันไม่ใช่เลย เราไม่ได้ไปออกแถลงอะไรเลยกับเหตุการณ์ตรงนี้ มีแต่นักข่าวโทรมาสัมภาษณ์ เพราะเราใกล้ชิด เราเป็นคนเอาน้องขึ้นมา
ด้วยเหตุการณ์ที่มันบังเอิญแหละ พี่ขับเรือตระเวนหาน้อง 4 ชั่วโมงจนกระทั่งเจอ แล้วผมก็ทำทุกอย่างที่จะปกป้องน้อง เพื่อให้ภาพน้องออกมาดีที่สุด ไม่ว่าขึ้นรถหรือว่าอะไร ผมจะติดกับร่างน้อง ไม่ให้ใครเปิดผ้า นอกจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น มันมีดราม่าหมดต่อให้เราทำดีแทบตายคนที่มันไม่ชอบเรา มันก็ไม่ถูกใจเขา ต่อให้คนเสียสละเท่าไหร่ก็แล้วแต่ ทำให้ตายหลายๆคนที่เขาไม่ชอบ
เขาก็ไม่ชอบ แต่ผมก็ไม่เคยไปต่อว่าเขา แล้วแต่มุมมอง แล้วแต่เขาจะคิด เขาอาจจะไม่ได้มองด้านบวกของเราก็ไม่เป็นไร แต่มีอีกหลายคนที่เขามองด้านบวกของเรา เราก็มองตรงนั้นดีกว่าเราจะได้มีกำลังใจในการทำงาน
เมื่อวานนี้บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ก็นำเจ้าหน้าที่อาสา 30 กว่านายลงภาคใต้ ไปช่วยน้ำท่วมที่นราธิวาส ทำอย่างนี้ก็มีคนด่าอยู่ดี เพราะเขาไม่ชอบ เขาเป็นคนทำความดีแล้วเขาอยู่ไม่ได้ ก็ต้องเข้าใจว่าชีวิตเขาอยู่อย่างนั้น”
เชื่อในเรื่องกฎแห่งกรรม? “กฎแห่งกรรมมีแน่นอนครับ ผมถึงไม่ตอบโต้ไม่อะไรทั้งสิ้น ผมบอกพี่บิณฑ์เสมออย่าไปตอบโต้ใครทั้งสิ้น ใครทำอะไรจะได้อย่างนั้นมันอยู่ที่เจตนา เจตนาเราดี สิ่งดีๆ จะไหลเข้ามาหาเรา ถ้าเริ่มต้นเจตนาเราไม่ดี ทำยังไงมันก็พัง ไม่ประสบความสำเร็จ ชีวิตก็จะเจอความทุกข์ เจอสิ่งที่รันทดทั้งครอบครัว อันนี้ถือว่าเป็นเรื่องจริงที่สุด กฎหมายอาจจะไม่ยุติธรรม แต่กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ”
รู้สึกอย่างไรบ้างกับความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องในวงการระหว่างแตงโม? “ผมเคยเล่นละครกับแตงโมประมาณ 3-4 เดือน ของทางช่อง 8 เราสนิทกันมากเมื่อก่อนนี้ ผมเล่นเป็นพ่อแตงโม สนุกสนานมากในกอง แล้วลูกสาวเราใบเตย-ใบตอง ใบตองนี่หน้าเขาคล้ายแตงโมมากประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์
ผมยังบอกแตงโมว่าใบตองหน้าคล้ายหนูมาก เขาก็เลยบอกว่าคราวหลังพี่พามากองสิ หนูอยากจะเห็น แล้ววันหนึ่งผมก็พาใบตองมาเจอกับน้องแตงโม แตงโมก็บอกว่าเหมือนขอถ่ายรูปกัน และออกมาเหมือนจริงๆ ณ ปัจจุบันใบตองก็อายุ 17 ปีแล้ว เพื่อนๆ ยังบอกเลยว่าหน้าเขาคล้ายแตงโมมาก”
ยังไงแอดฯก็จะพยายามเกาะติดข่าวดังกล่าวเพื่อมานำเสนอให้เพื่อนได้อัพเดทกัน ส่วนตอนจบจะเป็นอย่างไรก็ว่ากันอีกทีขอรับ(สงสารน้อง)
บทความน่าอ่านและอ่านข่าวเพิ่มจอแต่ความเติมได้ที่ lovetaifu.com
ขอขอบคุณที่มาจาก khaosod.co.th