iLove ไท่ฟู่

เบี้ยปี 65 ผู้สูงอายุได้วันไหนเท่าไร และคนที่มีสิทธิต้องลงทะเบียนกันอย่างไร

เบี้ยปี 65 ผู้สูงอายุได้วันไหนเท่าไร และคนที่มีสิทธิต้องลงทะเบียนกันอย่างไร

สวัสดีขอรับ แอดฯขอบคุณท่านที่ติดตามให้กำลังใจกัน มีข่าวเกี่ยวกับเบี้ยผู้สูงอายุ 2565-2566 มาฝาก เปิดลงทะเบียนหรือยัง โอนเข้าบัญชีวันไหน มาดูคุณสมบัติของคนที่สามารถลงทะเบียนรับเบี้ยคนชราได้ รายละเอียดดูเลย

เบี้ยผู้สูงอายุ หรือเบี้ยคนชรา เป็นหนึ่งในสวัสดิการของรัฐที่มอบเงินช่วยเหลือให้ผู้ที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละปีจะเปิดให้ผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์มาลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพ โดยจะเป็นการลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อรับเงินในปีงบประมาณถัดไป

ดังนั้นใครที่ยังสงสัยว่าตัวเองหรือผู้สูงอายุในบ้านเข้าเกณฑ์ได้รับเบี้ยยังชีพคนชราแล้วหรือไม่ และต้องไปลงทะเบียนที่ไหน เรารวบรวมรายละเอียดของการลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพ ประจำปีงบประมาณ 2565 และปี 2566 มาบอก พร้อมเปิดปฏิทินวันที่จะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีในปี 2565

เบี้ยผู้สูงอายุ 2565 ลงทะเบียนเมื่อไร ได้รับเงินตอนไหน

สำหรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ประจำปีงบประมาณ 2565 (ตุลาคม 2564 – กันยายน 2565) เปิดลงทะเบียนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 – กันยายน 2564 ปัจจุบันปิดรับลงทะเบียนแล้ว

โดยผู้ลงทะเบียนรับเงินปี 2565 ต้องเกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2505 ซึ่งจะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุครั้งแรกในเดือนถัดจากวันที่อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เช่น

* ยกเว้นคนเกิดวันที่ 1 จะได้รับเงินในเดือนเกิดนั้นเลย เช่น

เงินผู้สูงอายุ 2565 เข้าบัญชีวันไหน

กรมบัญชีกลางจะจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้าบัญชีเงินฝากของผู้มีสิทธิ์โดยตรง ซึ่งจะจ่ายให้ทุกวันที่ 10 ในแต่ละเดือน หากเดือนใดวันที่ 10 ตรงกับวันหยุดราชการ จะจ่ายในวันทำการ ก่อนวันหยุดนั้น ๆ ดังนั้นจะได้รับเงินตามปฏิทินการจ่ายเงินดังนี้

ผู้สูงอายุ ภาพโดย อดิศร กรมศรี จาก Pixabay

เปิดลงทะเบียนเบี้ยผู้สูงอายุ 2566 แล้ววันนี้

หากผู้สูงอายุคนไหนลงทะเบียนรอบก่อนหน้านี้ไม่ทัน สามารถมาลงทะเบียนเพื่อรับเงินในปีงบประมาณ 2566 (ตุลาคม 2565 – กันยายน 2566) ซึ่งเปิดรับลงทะเบียนรอบใหม่แล้ว ตามรายละเอียดต่อไปนี้

ใครลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุ 2566 ได้บ้าง

ผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะต้องมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ คือ

  1. อายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป คือ เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2506 และยังไม่เคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมาก่อน (สำหรับผู้สูงอายุที่ทะเบียนราษฎรระบุเฉพาะปีเกิด แต่ไม่ทราบวันเกิด/เดือนเกิด ให้ถือว่าเกิดวันที่ 1 มกราคม ของปีนั้น ๆ)
  2. มีสัญชาติไทย
  3. ต้องไม่เคยได้รับสิทธิประโยชน์เป็นรายเดือนจากหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือ อปท. ไม่ว่าจะเป็นเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ รวมถึงเงินอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน เช่น ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐจัดให้เป็นประจำ
  4. มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามทะเบียนบ้าน

กรณีเคยลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแล้ว แต่มีการย้ายภูมิลำเนา เช่น เคยลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพที่จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ปี 2560 แต่ปีนี้เพิ่งย้ายภูมิลำเนามาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร จะต้องไปลงทะเบียนใหม่ที่สำนักงานเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

เบี้ยผู้สูงอายุ 2566 ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันไหน

เปิดลงทะเบียน 2 ช่วง คือ

เบี้ยผู้สูงอายุ 2566 ลงทะเบียนที่ไหน

ลงทะเบียนได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามภูมิลำเนาของตัวเอง คือ

ใช้เอกสารอะไรบ้าง

  1. บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่าย
  2. ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
  3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร สำหรับกรณีที่ผู้ขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุผ่านธนาคาร

แต่หากผู้สูงอายุไม่สามารถมาลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้อื่นมายื่นคำขอรับเงินแทนได้ โดยต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้

  1. หนังสือมอบอำนาจ (แบบฟอร์มมอบอำนาจขึ้นอยู่กับการดำเนินการของแต่ละพื้นที่ ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)
  2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ อย่างละ 1 ฉบับ
  3. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ อย่างละ 1 ฉบับ

ทั้งนี้ สำเนาทุกฉบับต้องลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง

ลงทะเบียนแล้วจะได้รับเงินเมื่อไร

ทั้งนี้ จะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุครั้งแรกในเดือนถัดจากวันที่อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เช่น

* ยกเว้นคนเกิดวันที่ 1 จะได้รับเงินในเดือนเกิดนั้นเลย เช่น

ส่วนผู้สูงอายุที่เกิดก่อนวันที่ 2 ตุลาคม 2505 แต่ยังไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน และเพิ่งมาลงทะเบียนครั้งแรกหลังอายุครบ 60 ปี จะได้รับเงินตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 เป็นต้นไป

บทความน่าอ่าน

รวมข้อสงสัยเรื่องเบี้ยคนชรา

เบี้ยผู้สูงอายุ ได้รับเงินเท่าไร

การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในปัจจุบันจะได้รับเงินช่วยเหลือเป็นรายเดือนต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ตลอดชีวิต โดยเป็นอัตราเพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันไดตามช่วงอายุ ดังนี้

เคยลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพคนชราแล้ว ปีถัดไปต้องไปลงอีกไหม

การลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไม่จำเป็นต้องไปลงทะเบียนใหม่ทุกปี ลงเพียงครั้งเดียวก็ได้รับสิทธิ์ไปตลอด เว้นแต่กรณีที่ผู้สูงอายุย้ายที่อยู่ หรืออาจมีปัญหารายชื่อตกหล่น ถึงค่อยไปทำการยืนยันสิทธิ์ แก้ไขปรับปรุงข้อมูลให้สมบูรณ์

ผู้สูงอายุ ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay

กรณีย้ายที่อยู่ ต้องลงทะเบียนใหม่อย่างไร

หากผู้สูงอายุที่รับเบี้ยยังชีพมาโดยตลอดย้ายภูมิลำเนาจะต้องไปลงทะเบียนรับเบี้ยผู้สูงอายุใหม่ในพื้นที่ใหม่ที่เราพักอาศัย ตั้งแต่วันที่ย้ายเข้า แต่ต้องไม่เกินเดือนพฤศจิกายนของปีนั้น

โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งเดิมยังคงจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุถึงเดือนกันยายนของปีงบประมาณที่ย้ายภูมิลำเนา และหลังจากนั้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่จะจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อเนื่องในเดือนตุลาคมปีงบประมาณถัดไป

เช่น ย้ายออกจากภูมิลำเนาเดิมก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2564 จะต้องมาลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่ภูมิลำเนาใหม่ ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 จึงจะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งใหม่ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

สำหรับผู้สูงอายุท่านใดที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และมีความประสงค์จะรับสวัสดิการเบี้ยยังชีพ ก็อย่าลืมไปขึ้นทะเบียนกันให้เรียบร้อยในช่วงเวลาที่กำหนด หรือหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร, สำนักงานเขต หรือถ้าอยู่ต่างจังหวัด ให้สอบถามจากสำนักงานเทศบาล และ อบต. ในภูมิลำเนา

เงินส่วนนี้คงจะสามารถช่วยเหลือผู้สูงอายุในเรื่องค่าครองชีพได้ไม่มากก็น้อยนะขอรับ แอดฯไม่สนับสนุนผู้สูงอายุบางท่านที่มักจะเอาไปก๊ง รู้สึกว่ามันจะขัดความรู้สึกไปบ้างจะเตือนท่านท่านก็แก่กว่าเรา 555

บทความน่าอ่านและอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ lovetaifu.com

ขอขอบคุณที่มาจาก money.kapook.com