เปิดลงทะเบียน ‘ยิ่งใช้ยิ่งได้’ 21 มิ.ย. 64
สวัสดีครับ แอดฯขอขอบคุณที่ทุกท่านติดตามให้กำลังใจกัน วันนี้ลงทะเบียน “ยิ่งใช้ยิ่งได้” เพื่อรับเงิน 7,000 บาท เมื่อใช้จ่ายครบ 6 หมื่นบาท จำนวน 4 ล้านสิทธิ์ เปิดให้ใช้สิทธิ์แล้วเช้านี้ 21 มิถุนายน 2564 เช็คแล้ว รายละเอียเป็นอย่างไรมาดูกัน
หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และความยินยอมสำหรับประชาชนที่เข้าร่วม
โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้
1. สาระสำคัญของโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ (โครงการฯ)
1.1 ช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการฯ คือ ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
1.2 คุณสมบัติของผู้ประกอบการร้านค้าและ/หรือผู้ให้บริการ (ผู้ประกอบการ) ที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
- เป็นผู้ประกอบการขายสินค้าและ/หรือบริการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
- ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ หรือฝ่าฝืนมาตรการใด ๆ ของรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
1.3 วิธีการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ของผู้ประกอบการ
- กรณีเป็นผู้ประกอบการที่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการของรัฐที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือ ผ่านสาขาหรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะปิดรับสมัคร
- กรณีเป็นผู้ประกอบการนอกเหนือจาก (1) สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือ ผ่านสาขาหรือจุดรับลงทะเบียนของธนาคารกรุงไทยฯ ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะปิดรับสมัคร
1.4 คุณสมบัติของประชาชนที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯ
- เป็นผู้มีสัญชาติไทย
- มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันลงทะเบียน
- มีหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และมีบัตรประจำตัวประชาชน
- ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2564 หรือ ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ หรือ ไม่เป็นผู้ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3
- ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
- ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ หรือฝ่าฝืนมาตรการใด ๆ ของรัฐเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
- ในกรณีที่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 แล้วประสงค์จะเปลี่ยนแปลงการใช้สิทธิมาใช้โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ จะต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2564 ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เท่านั้น โดยสามารถเปลี่ยนแปลงสิทธิโครงการได้ 1 ครั้ง และจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงการได้อีก
- ในกรณีที่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษแล้วประสงค์จะเปลี่ยนแปลงการใช้สิทธิมาใช้โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ จะต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2564 ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เท่านั้น โดยสามารถเปลี่ยนแปลงสิทธิโครงการได้ 1 ครั้ง และจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงการได้อีก
1.5 วิธีการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ของประชาชน
- กรณีเป็นประชาชนที่เคยเข้าร่วมมาตรการ/โครงการของรัฐที่มีแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือ ผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2564
- ประชาชนนอกจาก (1) สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2564
ทั้งนี้ ก่อนการใช้สิทธิครั้งแรก ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ จะต้องยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชน ที่สาขา หรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยฯ ยกเว้นผู้ที่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทยฯ หรือผู้ที่มีแอปพลิเคชัน “KrungthaiNext” ซึ่งผ่านการยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทยฯ แล้ว
บทความน่าอ่าน
- สูตรลาบไก่ ทำกินอร่อย ทำขายรวย..
- พุทธวจน!! เหตุสำเร็จความปรารถนา
- อุตุฯ เตือนสภาพอากาศ 7 วันข้างหน้าไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง
- รวมตอบประเด็นหลัก ‘คนละครึ่งเฟส 3’ ที่หลายคนสงสัย
1.6 เงื่อนไขการใช้วงเงินสิทธิในรูปแบบบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Voucher)
รัฐจะสนับสนุนวงเงินสิทธิในรูปแบบ e-Voucher ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ให้แก่ประชาชนเมื่อชำระเงินซื้อ อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป หรือบริการนวด/สปา/ทำผมทำเล็บ และบริการอื่นที่กระทรวงการคลังกำหนด กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงสินค้าและ/หรือบริการตามที่กระทรวงการคลังกำหนดได้ที่ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com โดยการใช้ e-Voucher ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้
- ประชาชนต้องชำระเงินค่าสินค้าและ/หรือบริการผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ (g- Wallet) บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ให้แก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ที่รับชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน”
- ต้องมีการซื้อ-ขายสินค้าและ/หรือบริการกันจริง
- การซื้อ-ขายสินค้าและ/หรือบริการ ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องมีการทำธุรกรรมซื้อขายและสแกน QR Code เพื่อชำระค่าสินค้าและ/หรือบริการกันแบบพบหน้า (face-to-face) และไม่มีกระบวนการใด ๆ ในการซื้อขายที่ดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านคนกลาง ไม่ว่าด้วยวิธีการใด และไม่ให้ทำซ้ำ ส่งต่อ หรือวิธีการอื่นใดกับ QR Code ในแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมแบบพบหน้าดังกล่าว
- จำนวนเงินที่รัฐสนับสนุนวงเงินสิทธิในรูปแบบ e-Voucher ให้ต่อหนึ่งหมายเลขประจำตัวประชาชนจะไม่เกินกว่า 7,000 บาท รวมตลอดทั้งโครงการฯ
- ค่าสินค้าและ/หรือบริการที่รัฐสนับสนุนวงเงินสิทธิในรูปแบบ e-Voucher ไม่รวมถึงสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ยาสูบที่มีชื่อเรียกอย่างอื่น โดยการกำหนดเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงสินค้าและ/หรือบริการของโครงการฯ ให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงสินค้าและ/หรือบริการได้ที่ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com
- มูลค่า e-Voucher สามารถนำไปใช้จ่ายกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้ในช่วงระยะเวลาที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยสามารถตรวจสอบช่วงระยะเวลาที่กำหนดได้ที่ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com และ e-Voucher สามารถสะสมมูลค่าเพื่อใช้จ่ายกับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ แต่ไม่สามารถแลกออกมาเป็นเงินสดได้
- แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” จะสามารถใช้งานได้ระหว่างเวลา 06.00 – 23.00 น. ของทุกวัน
1.7 เงื่อนไขในการได้รับ e-Voucher
- ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ ชำระเงินค่าสินค้าและ/หรือบริการด้วยเงินของตนเองผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ที่รับชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ในช่วงระยะเวลาที่กระทรวงการคลังกำหนด โดยสามารถตรวจสอบช่วงระยะเวลาที่กำหนดได้ที่ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com ทั้งนี้ ต้องไม่ใช่การซื้อสินค้าสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ยาสูบที่มีชื่อเรียกอย่างอื่น โดยการกำหนดเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงสินค้าและ/หรือบริการดังกล่าวให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังกำหนด และสามารถตรวจสอบการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงสินค้าและ/หรือบริการได้ที่ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com
- e-Voucher ที่ได้รับจะคำนวณจากมูลค่าการใช้จ่ายตาม (1) ของเดือนก่อนหน้า เช่น การใช้จ่าย ตาม (1) ของเดือนกรกฎาคม จะได้รับ e-Voucher ในเดือนสิงหาคม โดยมูลค่า e-Voucher ที่ได้รับ คำนวณจากมูลค่า ดังนี้
(2.1) ยอดใช้จ่ายจริงตาม (1) ตั้งแต่ 1 – 40,000 บาทแรก ได้รับ e-Voucher ร้อยละ 10 ของ ยอดใช้จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 4,000 บาทต่อคน
(2.2) ยอดใช้จ่ายจริงตาม (1) ตั้งแต่ 40,001 – 60,000 บาท ได้รับ e-Voucher ร้อยละ 15 ของยอดใช้จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน
(2.3) จำกัดยอดใช้จ่ายจริงตาม (1) ที่จะนำมาคำนวณ e-Voucher ไม่เกิน 5,000 บาทต่อวัน ทั้งนี้ จะได้รับ e-Voucher ทุกต้นเดือนถัดไป โดยคืนเป็นวงเงินสิทธิให้ในแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
1.8 รัฐจะสนับสนุน e-Voucher ตามข้อ 1.6 รวมตลอดระยะเวลาโครงการฯ ให้แก่ประชาชนผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ ไม่เกิน 4 ล้านหมายเลขประจำตัวประชาชน ทั้งนี้ รัฐอาจพิจารณาเพิ่มเติมจำนวนสิทธิได้ในภายหลัง
1.9 การพิจารณาผู้ได้รับสิทธิตามข้อ 1.6 จะพิจารณาเมื่อประชาชนลงทะเบียนสำเร็จ ตามลำดับก่อนหลัง จนกว่าจะครบจำนวนสิทธิตามข้อ 1.8 หรือจนกว่าจะสิ้นสุดโครงการฯ
2. หลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ
- 2.1 ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ต้องปฏิบัติตามสาระสำคัญของโครงการฯ รวมถึงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ และต้องมีคุณสมบัติตามที่โครงการฯ กำหนด
- 2.2 ห้ามผู้เข้าร่วมโครงการฯ กระทำการใด ๆ ที่สร้างความเข้าใจผิดต่อมาตรการและ/หรือโครงการของรัฐ หรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินโครงการฯ หรือมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
- 2.3 หากผู้เข้าร่วมโครงการฯ ไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการฯ ผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะต้องชดใช้ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นให้แก่รัฐภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งถึงการกระทำดังกล่าว โดยชดใช้ความเสียหายผ่านช่องทางที่กระทรวงการคลังกำหนด
- 2.4 กระบวนการพิจารณาและดำเนินการตามข้อ 2.3 ให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
3. ข้อความตกลงยินยอมของประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ
* “ข้าพเจ้า” หมายถึง ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ *
- 3.1 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทยฯ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดเก็บ ใช้ และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคล ของข้าพเจ้าจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 โครงการเราชนะ โครงการ ม.33 เรารักกัน โครงการธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้” มาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ “ชิมช้อปใช้” บริการกระเป๋าสุขภาพ (Health Wallet) และบริการวอลเล็ต สบม.
- 3.2 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้กระทรวงการคลัง ธนาคารกรุงไทยฯ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง จัดเก็บ ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ข้าพเจ้าได้ให้ไว้ในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงข้อมูล ส่วนบุคคลของข้าพเจ้าจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 โครงการเราชนะ โครงการ ม.33 เรารักกัน โครงการธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้”และมาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ “ชิมช้อปใช้” บริการกระเป๋าสุขภาพ (Health Wallet) และบริการวอลเล็ต สบม. ต่อหน่วยงานของรัฐ และผู้รับให้บริการที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานของรัฐ เพื่อการประมวลผลและการตรวจสอบข้อมูล และ/หรือเพื่อการยืนยันตัวตนหรือเพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติเพื่อรับสิทธิตามโครงการฯ และ/หรือเพื่อการบริหารจัดการโครงการฯ
- 3.3 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้กระทรวงการคลัง หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ จัดเก็บ ใช้ ประมวลผล และเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลของข้าพเจ้า เพื่อประโยชน์ในการดำเนินมาตรการอื่นของรัฐหรือเพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินในอนาคต
- 3.4 ข้าพเจ้าตกลงยินยอมให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องร้องขอ สอบถาม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของข้าพเจ้า เพื่อประโยชน์ในการดำเนินโครงการฯ
- 3.5 ความยินยอมของข้าพเจ้าในอันที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บ ใช้ ประมวลผล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของข้าพเจ้าข้อ 3. นี้ ให้มีผลไปตลอดช่วงระยะเวลาดำเนินโครงการฯ เว้นแต่ความยินยอมตามข้อ 3.3
- 3.6 ข้าพเจ้าตกลงปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ และรับทราบว่าหากข้าพเจ้าไม่ปฏิบัติตามหรือ ฝ่าฝืนหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขของโครงการฯ ข้าพเจ้าจะต้องชดใช้ความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นให้แก่กระทรวงการคลังภายใน 30 วัน โดยกระบวนการพิจารณาและดำเนินการให้เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังกำหนด
- 3.7 ข้าพเจ้ารับทราบและยินยอมว่า ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่าข้าพเจ้าไม่ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการฯ กระทรวงการคลังอาจพิจารณาระงับสิทธิตามโครงการฯ ของข้าพเจ้าเพื่อดำเนินการตรวจสอบ และหากพบว่าข้าพเจ้ากระทำการดังกล่าวจริง ข้าพเจ้าจะต้องชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นให้แก่กระทรวงการคลังภายใน 30 วัน ทั้งนี้ ให้การตัดสินของกระทรวงการคลังถือเป็นที่สุด
- 3.8 ข้าพเจ้ารับทราบว่าการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย
หากมีข่าวคราวเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติม แอดฯจะรีบนำมาเผยแพร่เพิ่มเติมครับ
บทความน่าอ่านและอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ lovetaifu.com
ขอขอบคุณที่มาจาก bangkokbiznews.com