พุทธวจน “สัตว์ตั้งอยู่ในครรภ์ได้อย่างไร”

พุทธวจน “สัตว์ตั้งอยู่ในครรภ์ได้อย่างไร”

แอดฯเคยได้ยินคนเค้าพูดกันถึงนักวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งชาวเยอรมัน นักฟิสิกส์ผู้เสนอทฤษฎีสัมพันธภาพที่ได้รับรางวัลโนเบล (อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์)ที่ได้กล่าวถึงพระพุทธศาสนาประโยคหนึ่งว่า “If there is any religion that could cope with modern scientific needs it would be Buddhism.” ซึ่งแปลว่า หากมีศาสนาใดที่สามารถรับมือกับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ได้ก็คงจะเป็นศาสนาพุทธ แอดฯยังแปลกใจเลยว่าทำไมนักวิทยาศาสตร์ท่านนี้ทำไมถึงยกย่องพระพุทธศาสนาถึงเพียงนี้ แม้จะรู้ว่าศาสนาพุทธเรามีเหตุมีผลอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน แล้วมาได้ศึกษาพระไตรปิฎกบ้าง มีอยู่บทหนึ่งที่มียักษ์มาถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เรื่องสัตว์ตั้งอยู่ในครรภ์ได้อย่างไร คนที่เรียนมาในปัจจุบันก็พอจะตอบได้แต่นี่เป็นเรื่องเมื่อ สองพันกว่าปีมาแล้วองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตอบได้อย่างไรถ้าพระองค์ไม่ใช่ผู้รู้และอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์อีกต่างหากเราลองมาดูกันครับ

แอดฯขอหยิบยกเอาพระพุทธวจนในพระไตรปิฎก สคาถวรรค สังยุตตนิกาย ๑๕/๓๐๓/๘๐๑-๘๐๓  ว่าด้วยเรื่อง สัตว์ตั้งอยู่ในครรภ์ได้อย่างไร

อินทกยักษ์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ครั้นแล้วได้กราบทูลด้วยคาถาว่า :

(ถ้า)ท่านผู้รู้ทั้งหลายกล่าวว่า รูปหาใช่ชีพไม่ สัตว์นี้จะประสพร่างกายนี้ได้อย่างไรหนอ กระดูกและก้อนเนื้อ จะมาแต่ไหน สัตว์จะติดอยู่ในครรภ์ได้อย่างไร?

รูปนี้เป็นกลละ(รูปเริ่มแรกที่ปฏิสนธิในครรภ์มารดา) ก่อนจากกลละเป็นอัพพุทะ(ยังไม่พบความหมายโดยนัยแห่งพุทธวจน) จากอัพพุทะเกิดเป็นเปสิ(ชิ้นเนื้อ) จากเปสิเกิดเป็นฆนะ(้อน)จากฆนะเกิดเป็นปัญจสาขา(กิ่งห้า คือ แขน๒ ขา๒ หัว๑ ของทารกที่อยู่ในครรภ์) ต่อจากนั้น มีผม มีขนและเล็บ(เป็นต้น) เกิดขึ้น มารดาของสัตว์ในครรภ์บริโภคข้าวน้ำโภชนาหารอย่างใด สัตว์ผู้อยู่ในครรภ์มารดาก็ยังอัตภาพให้เป็นไปด้วยอาหารอย่างนั้นในครรภ์นั้น

นี่แหละครับที่แอดฯไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะผู้คิดค้นทฤษฎีสัมพันธภาพอย่างอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ถึงได้กล่าวยกย่องศาสนาพุทธถึงเพียงนี้ สาธุ..